พระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อประชาราษฎร์ ด้านพัฒนาสังคม – ตามรอยพระยุคลบาท สรรพศิลปศาสตราธิราช
pk5

pk6

          ศาสตร์ด้านสังคมศาสตร์ ทรงใช้หลักวิชาการพัฒนสังคมในเชิงสหวิทยาการด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกล นับตั้งแต่การวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพของชุมชน ทั้งชุมชนเมืองและชุมชนบทบท โดยการรวบรวม ประมวลและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ทราบถึงพลวัตรของชุมชนอย่างครบถ้วนทุกแง่ทุกมุม ทั้งสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม การใช้ทรัพยากร การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ยังทรงพระอัจฉริยภาพเป็นเลิศในด้านการบริหารจัดการโครงการพัฒนาอีกด้วย อาทิ พระราชทานพระราชดำรัสอันทรงคุณค่ายิ่ง ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า “โครงการต่าง ๆ นั้น ต้องสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ราษฎรกำลังประสบอยู่อย่างรีบด่วนและมีผลในระยะยาว โดยที่การพัฒนานั้นต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน ความจำเป็น และประหยัด ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือ ประชาชนต้องสามารถถึงตนเองได้ในที่สุด” ประชาชนจึงพร้อมใจกันถวายพระราชสมัญญาว่า “กษัตริย์นักพัฒนา” ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านรัฐศาสตร์อย่างครบถ้วน ทั้งจารีตประเพณีและทางการเมืองการปกครอง ยังความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกร และนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศเป็นอเนกอนันต์ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในฐานะ “พระธรรมราชา” ได้โดยสมบูรณ์ ทรงรับไตรสรณคมน์ มีพระราชศรัทธาปสาทะในพระพุทธธรรมเป็นอย่างยิ่ง และทรงปฏิบัติทศพิธราชธรรม จักรวรรดิวัตร และสังคหวัตถุ อันเป็นหลักจริยธรรมในการปกครองให้ปรากฏเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เกิดผลดีแก่อาณาประชาราษฎร์ พระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ได้เสด็จที่ได้เสด็จฯ เยือนประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป อเมริกาและเอเชีย เพื่อเจริญและกระชับสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ รวมทั้งทรงเชิญพระประมุขและประมุขของต่างประเทศมาเยือนประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะส่วนพระองค์ ยังผลให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศ วงการนานาชาติถวายราชสดุดีว่า “กษัตริย์ทรงงาน (Working Monarch)”