พระบรมราโชวาท
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในพิธีประสาทปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๒๘
ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มาทำพิธีมอบปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในวาระนี้ และที่ได้ทราบรายงานว่ากิจการของมหาวิทยาลัยดำเนินก้าวหน้ามาด้วยดีทุกด้าน ขอแสดงความชื่นชมกับผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จในการศึกษา
บัดนี้ท่านทั้งหลายต่างก็ศึกษาสำเร็จ มีความรู้ในวิทยาการระดับสูงหลายสาขาวิชาการทั้งปวงนั้นประกอบด้วยหลักความจริง ถือได้ว่าเป็นของดีในตัวเอง แต่เมื่อนำมาใช้อาจให้ผลในทางสร้างสรรค์ก็ได้ หรือให้ผลในทางเสื่อมก็ได้ นำนองเดียวกับยารักษาโรคโดยมาก ซึ่งถ้าใช้ถูก ก็รักษาโรคหาย ถ้าใช้ผิดก็เป็นอันตรายได้ต่าง ๆ จึงต้องเรียกว่ายาอันตราย เพื่อเตือนผู้ใช้ให้ใช้อย่างระมัดระวัง การใช้วิชาการก็เช่นกันจักต้องศึกษาถึงผลที่จะเกิดตามมาอย่างละเอียดรอบคอบและทั่วถึง ว่าจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลงานที่ทำอย่างไรเพียงใด หรือเป็นโทษบั่นทอนในส่วนใดแง่ใดบ้าง แล้วจึงพิจารณาหยิบยกส่วนที่อำนวยผลดีมาใช้ให้สอดคล้องพอเหมาะพอดีแก่งาน และข้อนี้คงถือได้ว่าเป็นความสามารถในการใช้วิชาการ ยังมีปัจจัยสำคัญอีกข้อหนึ่งที่จำเป็นต้องอาศัยเป็นหลัก ได้แก่เจตนาที่ดี ที่บริสุทธิ์ คือผู้ใช้วิชาจะต้องตั้งใจปรารถนาใช้วิชาให้เกิดประโยชน์สร้างสรรค์อย่างจริงใจ ทั้งมีคุณความดีเป็นพื้นฐานแห่งการกระทำความประพฤติทุก ๆ อย่าง เนื่องจากได้ฝึกอบรมความคิดจิตใจของตนมาเป็นอย่างดี ให้หนักแน่นมั่นคงในความดี ให้มีความเที่ยงตรงเป็นกลางห่างจากอคติ ให้รู้จักคิดพิจารณาด้วยเหตุผลและความถูกต้องเป็นธรรม จนมีปัญญาสามารถรับรู้เรื่องราวและปัญหาต่าง ๆ ได้โดยกระจ่างแจ่มชัด และสามารถที่จะนำวิชาการมาใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม ให้สำเร็จประโยชน์อันพึงประสงค์ได้ ในโอกาสสำคัญที่จะออกไปเริ่มต้นงานนี้ จึงใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายจดจำนำคำที่กล่าว ไปศึกษาพิจารณาเป็นแนวทางใช้วิทยาการของท่านต่อไป
ขออวยพรให้บัณฑิตใหม่ประสบความสุขความสำเร็จในชีวิต มีความเจริญมั่นคงและรุ่งเรืองก้าวหน้าในหน้าที่การงานต่อไป ทั้งขอทุก ๆ ท่านที่มาประชุมพร้อมกันในพิธีนี้มีความผาสุกสวัสดีจงทั่วกัน